Translate

วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2555

หมาเห่าตัวประหลาด



วันนี้วันพระเราไปทำบุญที่วัดกับแม่อีกตามเคยแต่พ่อไม่ได้ไปแก่ท้องเสีย แต่น้องสาวคนเล็กไปด้วยเพราะโรงเรียนหยุด (หุหุชอบล้อเล่นอีกแล้วลูกสาวคนเดียวของข้าพเจ้าเอง) ชอบคิดว่าตัวเองเป็นพี่สาว  อะนะไม่อยากแก่    


 





ไปเช้าเกินนั่งรอเวลาอยู่บนรถ แป็บหนึ่งก็เดินสำรวจวัดดูโน้นนี่นั้น เมื่อเช้าว่าจะเอากล้องประจำตัวติดรถมาด้วยแล้วแต่ก็ลืม   ดอกไม้ที่วัดปลูกไว้สวยงาม ที่รู้จักและไม่รู้จัก ดอกไม้ใบหญ้า ก็ทำให้เราเพลิดเพลินจนเดินเลยออกไปปากทางเข้า  ถ่ายจากกล้องมือถือ เอาก็ได้แบทตารี่ก็จะหมดแล้ว ไม่ได้สนใจจะเอามาด้วยหลอกมือถือ  เพราะเวลามาที่วัดทีไรไม่มีสัญญาณซะงั้นทั้งทั้งที่ ตรงอื่นมีแต่บริเวณวัดไม่เคยมี ขึ้น sos ตลอด ของค่าย อันดับสอง     อาศัยเอามาถ่ายรูปขณะรอพระ    เดินไปเจอดอกกระดาษหรือเฟื่องฟ้าสวยๆ  ดอกไม้อะไรไม่รู้  ลูกอะไรก็ไม่รู้น่าจะเป็นสมุนไพรที่ทางวัดเอามาปลูกไว้ ถ่ายเจ้าแมวน้อยด้วย  เสียดายน่าจะเอากล้องมานะ




           เดินออกมาไกลไปหน่อย สงสัยหมาที่วัดจำไม่ได้นึกว่าขโมย พากันเห่าใหญ่เลย  ตายละหว่า เราทำให้หมาเห่า ขนาดนั้น ผู้เฒ่าผู้แก่ในศาลาคงชะแง้มองใครฟ่ะ ทำให้หมาเห่าอยู่ได้   เมื่อกี้ตูก็เดินผ่านมึงมาไม่รู้กี่ครั้งกี่หน งัยมาทำยังกะตูเป็นตัวประหลาดเห่ากันอยู่ได้  จะทำไงดีหว่าถ้าเดินกลับเข้าไปมันจะกัดเรามั้ยเนี๊ย   มันสติฟั่นเฟื่อนไปแล้ววว   เดี๋ยวก่อนดีกว่า รอให้มีใครขับรถเข้ามาก่อนค่อยเดินไปเผื่อจะเบนความสนใจของมันไปบ้าง   ไอ้ลูกสาวก็เอาแต่นั่งเล่นอยู่ในรถไม่เอะใจมั่งงัยว่ามันเห่าอะไร ไม่ช่วยกันเลย  พอจะเดินเข้าไปมันก็พากันเห่าอีก  เลยต้องหันหน้าเดินตรงไปที่ศาสตายายหน้าวัดใกล้ๆ
  " ตายายเจ้าขาหมามันเห่าหนู เพราะอะไรไม่รู้ หนูกลับไปไม่ได้  กลัวมันจะฟัดมันจะกัดจะขยำ  โปรดช่วยหนูตาดำๆ ให้ หมามันหยุดเห่าที  "   ก็เลยถือโอกาสจุดธูปไหว้ตายายเลย เพราะตั้งแต่ศาสสร้างขึ้นมาได้ตอนมีงานกระถินที่วัดเมื่อเดือนที่แล้วยังไม่ได้มาไหว้เลย มีคนมาขอหวยเยอะด้วย รวมทั้งแม่ของข้าพเจ้าด้วย   ในตอนนี้ข้าพเจ้าก็จะขอมั่ง   แต่เป็นขอให้ หมาหยุดเห่าเสียที  เจ้าคะ    เห่าซะกลัวตัวเองเลยดีนะที่ไม่หอนด้วย   ไอ้ยะห์    ทันใดนั้นเองก็เกิด   ปาฎิหารขึ้นกับเรา    ล้อเล่นแค่รถพระที่ออกไปรับบาตรที่โรงเรียนกลับมาแล้ว   ก็เลยเป็นจังหวะที่เราจะอาศัยช่วงชุลมุนของหมากลับเข้าไปได้    เออเรื่องไม่เป็นเรื่องก็ เป็นเรื่องได้นิ    ได้เวลาพอดี เดินไปที่รถทำเสียงปกติเรียกน้องสาวคนเล็กให้ไปที่ศาลาวัด
เพื่อทำบุญกัน    เออแต่เดินผ่านมันไปมันไม่เห็นจะสนใจเลย  เมื่อกี้เห่าซะ

วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2555

กรรมบังตา

เมื่อวานี้ท่องเน็ตไปตามประสา ลองพิมพ์คำว่า  รักษาอาการเสียงแหบ โอ้โห้เส้นผมบังภูเขาจริงทำไม่เราไม่เสิร์ทหาตั้งนานแล้ว  มันสามารถหายได้ พอมีกำลังใจและมีความหวังขึ้นมาบ้าง  แต่ว่าค่าใช้จ่ายแพงจัง
สี่หมื่ินถึงเจ็ดหมื่น แต่ไม่เป็นไรยังมีหวัง  ง่วงนอนจังต้องรักษาสุขภาพไปนอนก่อนดีกว่า

วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ถ่ายภาพบวชหมู่ถวายในหลวง

เมื่อวันที่  3-4   มีภาระกิจที่เพื่อนบ้านไหว้วานให้ไปถ่ายภาพงานบวชที่วัดเพราะพี่ชายเขาบวชแต่เป็นการบวชหมู่ ซึ่งจะมีบวชกันทุกปีอยู่แล้วเพื่อถวายในหลวงของเรา และ ส่วนบรรดาผู้ที่จะบวชก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมากเพราะบางคนที่ขัดสนเงินทอง ก็รอวันนี้กัน บ้างก็บวชแก้บนไปในตัว  ตอนแรกเจ้าของบล็อกก็ลังเลเพราะอาการปวดหลังยังไม่หายเลย คิดไปคิดมา ตกลงพี่ว่างน้อง (เรารู้จุดมุ่งหมายของตัวเองแล้วล่ะ)   เอาละซิ แต่ฝีมือการถ่ายภาพของเรามันก็สเน็คๆ ฟิชๆ  เคยถ่ายแต่ในสตูดิโอหรือไม่ก็งานแต่ง บวชเดียว แบบหมู่ไม่เคยถ่าย  ความวิตกกังวลเริ่มก่อต่อ  จะถ่ายออกมาดีมั้ยนะ งานหินนะเนี่ย ยิ่งเป็นบวชหมู่ด้วยคงชุลมุนน่าดู  ถ้าอย่างนั้นเราต้องถ่ายแบบ ใครอยู่หน้ากล้องก็ถ่าย ใครอยู่หลังก็ไม่ค่อยมีภาพละกัน ( แหมคนถ่ายภาพก็ตัวเตี๊ย ) แต่จะพยามเต็มที่

ตะเกียงกระป๋องเงาะของเรา

สิ่งที่ตั้งใจทำในวันพ่อตั้งแต่ปีที่แล้วก็คือตะเกียงจากกระป๋อง ปกติบ้านเราจะทำกันทุกปีอยู่แล้วทำไฟหน้าบ้านปีนี้เจ้าของบล็อกมีบ้านเป็นของตัวเองแล้วจึงอยากทำอะไรๆเพื่อความสุขทางใจ ก็เลยได้ไอเดียนี้แต่ไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จซักเท่าไรเพราะไม่ค่อยสวยดังตั้งใจ  เมื่อวันก่อนเจาะไปได้สามกระป๋องเองก็ต้องไปถ่ายภาพงานบวชพระจึงพักไว้  พอเสร็จสิ้นภาระกิจบังเอิญผู้ช่วย(แฟน)มาแล้วจึงให้ซื้อสีเปย์สีขาวมาเอาสว่านมาด้วยเราใช้ตะปูเจาะมันบุบบี้ไปหมด สะสมมาได้สิบสามใบ  พอดีเลยเจาะรูเป็นตัวอักษร  we love the king  ไชโย จะได้ถ่ายรูปออกมาสวยๆด้วย พอกลางคืนก็จุดเทียนหอมใส่เข้าไป
เตรียมกล้อง อ้าวพี่ชายยืมรถไปธุระขาตั้งกล้องอยู่บนรถ( รถเก๋งเก่าคันเก่งของเราเอง ) จบเลย  แล้วเมื่อไรจะกลับเนี่ยเสียงผู้ช่วยก็ตะโกน...ทรงพระเจริญ...ทรงพระเจริญ..เขาเป็นของเขาอย่างนี้ทุกปี...เรานับถือคนที่ไปรอรับเสด็จจริงๆเลยเห็นความตั้งใจของเขาแล้วรู้สึกได้ถึงความรักความเคารพต่อพระมหากษัตย์เป็นอย่างยิ่ง
แต่ประมาณสองทุ่มพี่ก็มา(พร้อมกับทำที่เปิดประตูรถหักด้วยเซ็งเลยเราอุสาห์ถนอมไว้ตั้งนานเจอพี่ชายขับวันเดียว) ขนาดตอนยังไม่หักยังเปิดยากเลยบอกให้ระวังๆแบบนี้เวลาจะเปิดประตูก็ต้องเปิดกระจกเปิดข้างนอกเอาเสียเงินอีกแล้วเรา

ได้ขาตั้งกล้องแล้วการถ่ายภาพออกมาก็ไม่ค่อยสวยเท่าไร คงต้องฝึกปรืออีก แต่ก็ตั้งใจทำอีกเช่นเคยคิดไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วนะเนี่ยเอ้ยย

ต่อ...ส่วนเรายังไม่มีโอกาสได้ไปอีกเคยไปตอนเด็กๆไปเที่ยวท้องสนามหลวงแต่ไม่เห็นพ่อหลวงของเรา
  แต่ทุกครั้งที่ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีพวกเราจะขนลุกซู่น้ำตาไหลออกมาด้วยความปิติยินดีหน้าทีวีที่บ้านของเรา(ขนาดตอนกำลังเขียนบล็อกข้อความนี้ยังขนลุกเลยคนที่เป็นเหมือนกันจะรู้ดี)
 
  ยังจำได้ดีเมื่อตอนเด็กๆ บ้านเราจะใช้ขวกกระทิงแดงใส่ผ้าห่มเก่าทำไส้ใส่น้ำมันก๊าสตัดไม้ลวกมาทำเป็นขา      พวกเราจะตื่นเต้นมากเมื่อถึงวันที่ห้าธันวาคม เพราะเราจะสนุกสนานกับไฟตามท้องถนนที่ชาวบ้านทำหน้าบ้านตัวเองจนไปจบกับอีกบ้านหนึ่งต่อๆกันไปเสียงพุดังไปทั่วสลับกันไปในแต่ละหมู่บ้าน...แต่เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งที่คุ้นเคยก็กลับเปลี่ยนแปลงเมื่อไม่นานมานี้.


วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สิ่งที่ตั้งใจไว้ในวันพ่อ

จะวันพ่อแล้วคิดไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วว่าปีนี้จะทำตะเกียงเทียนประดับหน้าบ้าน จากกระป๋องเงาะ
เดือนที่แล้วซื้อเกาะกระป๋องกินบ่อยที่สุดดดเพื่อให้ได้กระป๋องมาทำตะเีกียง จุดหน้าบ้านในวันที่ห้าธันวา
นับกระป๋องดูมีทั้งหมด   14 .ใบ     เดีบวค่อยมาอัพเดทใหม่

เข้าใจแล้วนะ

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะขายของออนไลน์ของเรา  โอกาสที่คนจะซื้อน้อยมาก เราขายตามตลาดนัดมีลุ้นกว่าอีกมั่ง  ลองโพลต์ภาพมาเป็นเดือนแหละแม้แต่คนเข้ามาดูยังไม่มีเลย  ขนาดมีเฟสบุ๊คด้วยยังเงียบฉี่เลย ที่ว่าง่ายง่ายในแง่ของอิสระในการขายมากกว่า ใครใคร่ขายอะไรก็ขายไปหรือต้องมีกำลังโปรโมทเว็บ  เราไม่ได้ท้อนะแต่รู้สึกได้ว่ามันหินไม่มีอะไรได้มาง่ายๆจริงๆนะเนี่ย   สำหรับคนที่เก่งการตลาดเก่งเทคโนโลยีก็โชคดี  ถ้าเป็นตาสีตาสา คงไม่รอด  อย่างเราดันอยากทำดูบ้างเหนื่อยนะที่ต้องทำอะไรคนเดียวทุกสิ่งอย่าง แม้แต่กระบวนการคิด  เอานะ ขำขำ จะบ่นไปทำไม   บ้างคนทำกันนานกว่าเราอีกยังขายไม่ได้เลย บ้างคนก็ล้มเลิกไปก็เยอะ  มันเป็นเรื่องธรรมชาติ  

ก็รอไปก่อนเดียวมีออเดอร์มาจริงแล้วจะทำยังไง    กว่าจะทำได้แต่ละชิ้น ปวดหลังมากมาย ถ้าเป็นอย่างนั้นเราก็ต้องเลิกเย็บผ้าแน่แน่โดนว่าอีกเรา  (โสม...น้ำน่าเป็นงัยละคนไม่ชอบอยู่เฉยงานเข้า )

วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

วันเพ็ญเดือนสิบสอง

แหมตรงกับชื่อเราพอดีเลยเพลงลอยกระทงเนี๊ย
พาเด็กไปเที่ยววันลอยกระทงกัน  ใจจริงอยากบินเดี่ยวจะได้ถ่ายภาพแบบสบายๆ แต่เห็นทำตาปริบๆ
หนูไปด้วย  หนูไปด้วย   หนูไปด้วยยยย      ก็เลยเป็นอย่างที่เห็นเฮ้ยย


ในหมู่บ้านเราก็จัดงานวันลอยกระทง  มีของกินฟรี มีบ้านลม ให้เด็กเล่นกันด้วย...แต่ไม่ยอมไปกันไม่เสียตังค์มันไม่นุกใช่ปะเด็กๆ(เราเต็มๆ) แต่ก็เอาเถอะ ก็นุกหนานกันไป  บรรยากาศดีมากที่เราไปเป็นเขื่อนใหญ่  มีของกินขายเพียบไอ้โน่นก็น่ากินไอ้นี่ก็กลิ่นยวนใจ แต่กระเพาะปลาหน่อไม้เยอะไปหน่อย  มีประกวดวงดนตรีโฟกซอง แต่ไม่ได้เก็บภาพมา  ดีใจมากไปเจอโคมลอย...เคยเห็นในภาพถ่ายที่เชียงใหม่สวยงานมากมายอยากถ่ายให้ได้อย่างเขาบ้าง. ขาตั้งกล้องอยู่บนรถเด็กๆก็ขี้เกียจเดินจะรอตรงนี้กัน   เราก็กลัวไม่กล้าทิ้งไว้ลำพัง    สุดท้ายก็ได้เท่านี้เองโถ...โคมลอยของฉัน   ต้องมีวันของเราบ้างสิน่า
         ส่วนกระทงตั้งใจไว้ว่าจะไปซื้อเอาดีกว่า   เพราะดอกไม้ตกแต่งไม่มี

                   กริ้งงงง(ใช่แล้วเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เราเองหุหุ origin มาก)    ตอนบ่ายพี่สาวโทรมาจากกรุงเทพบ่นให้ฟัง..โห๋จะไปซื้อกระทงมาทำเองซะหน่อยต้นกล้วยอันละ 40 บาทแพง(memory..หายย)  ได้ฟังเช่นนั้นทำเราเลยเปลี่ยนใจในบัดดล  
                เออ เรามีต้นกล้วย เรามีธูป เรามีเทียนอยู่แล้วนิทำเองดีกว่านิไม่ได้งกนะแต่ไอเดียมันบรรเจิด
กระทงใบไม้...ก็สวยดีนะ      ที่จริงเพื่อนบ้านก็มีดอกไม้อยู่แต่เกรงใจเขา  เขาเพิ่งปลูกและอีกอย่างตอนเช้าลูกหลานเขาก็ทำไปโรงเรียนกันหลายใบคุณครูให้ทำ
                    ที่บ้านเราก็มีกุหลาบปลูกไว้ตั้งหลายต้นแต่ออกดอกไม่ทันเพราะเจ้าของบล็อกตัดเกือบทุกวันพระเมื่อเช้าก็เพิ่งตัดไปวัดเอง หลานขออาๆ ขอกุหลาบดอกหนึ่ง..ไม่ได้จะเอาไปไหว้พระพุทธ.
   แต่สุดท้ายที่หอบไปก็ต้องเอากระทงกลับมาที่บ้าน   เด็กหนอเด็ก...ไม่ลอยที่นี่นะอายเค้ามะ...ของเค้ามีแต่สวยๆจบกัน....

วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สุขใจที่ได้...ทำ

วันนี้อารมณ์ศิลป์เรียกร้องหยิบกล้องคู่กายเดินรอบบ้าน  เจอแล้ว...ดอกหญ้าธรรมชาติล้วนสรรสร้าง

วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เสียงเล็กๆของฉันที่ดังในใจ...

อยากแหกปากร้องเพลง...อยากตะโกนให้กึกก้อง...
คิดถึงเสียงร้องเพลงของตัวเองจังเลย....เมื่อไรนะเราจะใช้เสียงได้เป็นปกติเสียทีผ่านมาก็หกปีแล้วนะ
ในเวลาที่เรามีความสุขเราก็จะร้องเพลงมีความทุกข์เราก็ร้องเพลง
เพราะการร้องเพลงทำให้บรรเทาทุกข์ลงได้เสียงสำคัญมากนะในการดำเนินชีวิต
   


    

จักรโพ้งตัวตัวแรก


ตั้งงบไว้  5000 สำหรับซื้อจักรโพ้งริมขนาดเล็ก  หาร้านในเน็ตเจอร้าน สองร้านที่น่าสนใจ เข้า ก ท ม ไปร้านแรกของไม่มี
ไปอีกร้านเราดูในเว็บแล้วโทรถามด้วยว่ามีจักรเล็กยี่ห้ออะไรเขาบอกมีหลายยี่ห้อต้องมาดูเอง
คราวนี้เราก็ตรงปรี่เข้าไปร้านที่สอง ..เจอแม่ค้าสาวสวยนาง หนึ่ง (ยังกะปริตตี้เลยแต่สีหน้าไม่ค่อยรับแขก))...มีจักรโพ้งเล็กมั้ย  อะไรนะใบมีดจักรโพ้งมี  (เวรเสียงเรามันเบาขนาดหรือคนฟัง...หูไม่ดี...คำนี้จะโดนแบนด์มั้ยนะ ) จักรโพ้งเล็กนะมีใหม  อ้อ มี.. มียี่ห้ออะไรขอดูได้มั้ย  พอดีผู้ชายอาเฮียเจ้าของร้านบอกสวนกลับมาก่อน  ตอนนี้มีแต่ขี้ห้อ เพนกวิน ราคา สามพันห้าร้อยบาทส่งฟรี  แพงไปมั้ย ( ถามแบบนี้หมายความว่าไงนะงง ) 
ตั้งใจมาแล้วนี่ก็ต้องเอา เออลดให้หน่อยได้มั้ยเพราะคงไม่ได้ไปส่งให้หรอกอยู่ราชบุรีแหละ  ลดได้ไม่มากนะ สรุปว่าลดได้ 200บาทเอาเถอะเราตั้งงบไว้ 5000แต่มาได้แบบนี้ก็ไม่ซีเรียส ตกลงเอานะ   เจ้เจ้าของก็เรียกช่าง..มายกจักรไปประกอบให้ลูกค้าเร็วจะเที่ยงแล้ว.  

ส่วนเราก็ถามซื้อโน่นนี่นั่นตลอด กับพนักงานสาวอีกคนน่าจะเป็นพม่า (มาสังเกตทำไมพนักงานสีหน้าไม่แอปปี้เลย) อ้อจะเที่ยงอยู่แล้วหมดหน้าที่แล้วขอไปกินข้าวก่อน ก็เข้าใจนะ  น้องพนักงานคนสวยไปตักข้าวนั่งรอให้ครบองค์ประชุมแล้ว. เหลืออยู่คนหนึ่งดูท่าทางจะเกรงใจเรายังไม่ไปเราก็ซื้อด้ายอุปกรณ์เพิ่ม รู้สึกเกรงใจเหมือนกันงั้นแค่นี้ก่อนคิดตังค์เลย    “ เพ่เพ่ปานารอด้าหลาร้าเลออาดายปาใฮชางลอจะ”  

วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เรื่องของคนขี้แพ้

เรื่องของคน.....ขี้แพ้
           อาการป่วยที่ไม่มีทีท่าว่าจะหาย เพราะเราไม่ไปหาหมออย่างจริงจัง เป็นเพราะเรามีประการณ์แย่ๆการไปโรงพยาบาลได้กลิ่นต่างในโรงพยาบาลแล้วเป็นลมซะงั้น และหมอบ้างคนพอจะอ้าปากบอกอาการ ที่เกิดกับเรา หมอก็สรุปให้เราทันที อยากพูดอยากบอกมากกว่านี้ก็แต่หมอก็มีเวลาให้น้อยเหลือเกิน เป็นหมอเทวดากันหมดรู้ทุกอย่าง เฮ้ย เพราะเป็นแบบนี้งัย จึงเป็นสาเหตุให้ซื้อยามากินเอง รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่เป็นผลดีกับเราเลย มีสิทธิในการรักษาในฐานะประชาชนคนหนึ่ง แต่แทบจะไม่ได้ใช้เลย หลังจากที่ได้หาข้อมูล ในอินเตอร์เน็ต พอควร เราก็จะพูดแบบเปิดช่องให้หมอรู้ว่าเราพอมีข้อมูลนะเหมือนช่วยหมออีกแรงหนึ่ง . จะเล่าอาการของเรามันมันเริ่มจากนี่......

วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ปลาช่อนเคาะประตูห้อง

ปลาช่อนเคาะประตูห้อง   ฟังแล้วเหมือนจะเป็นเรื่องโจ๊ก
มันเกิดเมื่อประมาณสองปีที่แล้ว       ช่วงเทศกาล เราจะกลับไปบ้านต่างจังหวัดกัน(ตอนนั้นอยู่ ก ท ม )
เป็นปกติที่พ่อของเราจะไปหาปลาที่เขื่อนใกล้บ้านมาทำเป็นกับข้าวเสมอ  วันที่เรากลับไปบ้านพ่อก็ไปหาปลาอีกเช่นเคย
พ่อใช้ให้เราไปดูปลาที่ขังไว้มาทำเพื่อเป็นกับข้าวในตอนเย็น      เออตุ๊กเอ้ยย(ชื่อของเจ้าของบล็อกเอง)  ไปดูปลาซิตายยัง   พอเราไปเห็นปลาช่อนสองสามตัว   ตายไปบ้างก็มี แต่มีอยูตัวหนึ่งยังไม่ตายในปากมีเบ็ดคาอยู่ด้วย เราจึงแกะเบ็ดออกแล้วตะโกนบอกพ่อไปว่า...พ่อมันยังไม่ตายเลย...พ่อตะโกนกลับมา   มันไม่ตายก็ทำมันให้ตายซิจะได้แกงพร้อมกันพ่อทำเสียงเหมือนเอาจริง( ในใจเราก็ไม่อยากให้ทำอยู่แล้ว)เราบ่ายเบียงตอบพ่อไปว่าขังมันไว้ก่อนดีกว่าพ่อ..  เป็นอันว่าตกลงตามนั้น..ขังไว้ก่อน  เราก็เติมน้ำให้มันแล้วเอาฝาหม้อปิดทับด้วยหินลับมีดเพราะพ่อบอกว่าถ้าไม่ทับเดี๋ยวมันออกได้
ในเวลาต่อมา...

นางแบบจำเป็นของ..มะ

ยังไม่ได้ฤกษเย็บปลอกหมอนอิงเลย  อาการปวดหลังมันมาจากการเย็บผ้าหรือป่าวนะยังไม่หายซะที
ถ้ามันเกี่ยวกันหล่ะเราจะทำยังไง   ต้องยกเลิกการเย็บผ้าเหรอ?  แล้วที่เตรียมวางแผนไว้ทั้งหมดก็ล่มนะซิ
ขออย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย   จักรก็ซื้อมาแล้วด้วย   ยังไม่ได้เย็บหมอนแต่แอบเย็บผ้าพันคอไปแล้ว หนึ่งโหล  ก็มันอดใจไม่ได้ไปเจอผ้าสวยๆก็เกิดไอเดียอีกแล้ว   อยากทำขายจัง  ชอบเอาตัวเองเป็นมาตฐานอยู่เรื่อย ก็เราทำใช้เองแล้วแหละ  หนึ่งผืน  คิดอีกแล้วว่าต้องมีคนชอบ เหมือนเรา  เข้าข้างตัวเองตลอดดด อิอิ  
 
มีนางแบบจำเป็นมาเป็นแบบให้ด้วยนะ   แบบถูกบังคับอ่ะ (ดูเอาเหอะขนาดไม่เต็มใจนะเนี่่ย) เอาน่าช่วยกันทำมาหากิน  มืดไปมั้ยมะ (มะไม่ชอบใช้แฟลชแสงธรรมชาติสวยกว่า ก็หนูไม่ทำตัวให้ขาวววนิจ๊ะ) 

       ถ้าเพื่่อนๆพี่ๆน้องๆลุงป้าน้าอา  เด็กแนว        อยากได้ผ้าพันคอไว้เสริมสวยเก๋เท่ห์หล่อก็เข้าไปดูได้ที่  มือใหม่หัดค้า...ของตุ๊กตาล้มลุก ตรงกรุ๊ปบล็อกได้นะจ๊ะ   หรือจะแวะมาเยี่ยมเยี่ยนอย่างเดียวก็ได้คะ                           



วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

มือใหม่หัดค้า


                        เฮ้ย...ได้กฤษเสียทีกับการจดจ้องอยู่นาน   ตอนนี้ก็กำลัง  งง กับการทำบล็อกอยู่เลย  แต่ก็ได้ทำบล็อกอีกบล็อกหนึ่งไว้สำหรับขายของ  ที่ทำถ้าใครหลงเข้ามาก็แวะไปชมหน่อยนะคะ   clickมือใหม่หัดค้า

ใครใคร่ค้า...ค้า

ใครใคร่ค้า...ค้า เริ่มจากที่ได้ท่องโลกออนไลน์มาเป็นเวลานาน ชอบที่จะเข้าไปดูการตกแต่งบ้านมากที่สุดสะดุดตาก็หมอนอิงสีสรรสวยงามกับการจัดวางแบบลงตัวของห้องนั่งเล่น ในสไตล์ต่างๆ อยากเอามาพักพิงอิงอุ่น เสียนี่กระไร เชื่อว่าต้องมีคนคิดเหมือนกันแน่ๆ มีอะไรหลายอย่างที่เราอยากทำ แต่เราคิดถึงปลอกหมอนอิงก่อนเพราะชอบตกแต่งบ้านคิดว่าเราทำได้ มันไม่ใช่เรื่องใหม่เลยในโลกออนไลน์มีผู้ผลิตรายใหญ่ๆระดับโรงงาน ขายกันเกลื่อนเลยแล้วก็สวยทั้งนั้นแล้วเราจะไหวเหรอ จะมีใครซื้อเรามั้ยเป็นคำถามที่เกิดขึ้นในใจ แต่ในใจก็มีคำตอบไปว่า เอานะเรามันพวกดันทุรันอยากทำอยู่แล้ว ร้านขายรถเปิดแทบจะชนกันตายเขายังทำกันเลย การค้าขายถ้าเราคิดว่ามีคนทำเยอะแล้ว เราก็จะไม่ได้ทำอะไรเลยแน่นอนในชาตินี้ มีคำพูดจากคนรอบข้างอีกทำไมไม่ขายของกินตามตลาดนัด มีคนกินแน่ ส่วนปลอกหมอนอิง ใครจะซื้อแพงด้วยบ้านนอกๆแบบนี้ (ต่างจังหวัดอ่ะคะ) เออแต่ถ้าอันละ 50-60 พอลุ้น ไอ้ยะ ! เราจะทำงานคุณภาพ ผ้าเมตรละเป็นร้อย ไม่ใช่สามเมตรร้อยนะ ( ไม่รู้จัก handmade หรอจ๊ะ คิดในใจ ) ลองคิดเล่นนะว่า ถ้าทำถูกพอซื้อไป ฟิตแบค มา แบบนี้ “ ทำไมไม่ทนเลยผ้าก็เป็นขุยซักไม่กี่ทีก็ขาด “ ว่ามั้ย. ต่อ (ก้อแพ้กลิ่นควัน กลิ่นต่างมากมายในตลาดนัด) มันไม่ใช่แนวด้วย เราอยากทำชิ้นงานขึ้นมาเองทำเองทุกขั้นตอน มันได้ความภูมิใจความสุขด้วยนะ เจ๋งก็เจ๋งแบบมีความสุข อิอิ. จะไปทำอะไรอย่างอื่นได้อีกหรือเรา เสียงก็ไม่มี สามวันดีสี่วันเปื่อย เคยทำงานตั้งแต่ค่าแรง 500, 1,600, 3,000 6,000 8,000 11,000 ต่อเดือน พอหวังว่าจะได้ ปริญญาตรีสตาร์ท 15,000 บาท ไอ้ยะห์ ก็หมดอายุการใช้งาน แล้วเราเขาไม่รับ แป๋วววว ( 30 up เองน้า ยังไม่ครึ่งคนเลย หนะ ) กลับมาที่เรื่อง ขายต่อ ถ้าเราตั้งใจใส่ใจบวกจริงใจ ลงไปในสิ่งที่ทำ และหวังลึกในใจว่า ต้องมีคนชอบซิน่าต้องโดนบ้างละ นั่นแหละคือการตัดสินใจ ลงมือค้า.

วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เราคือเรา

เวลาที่เราอยู่ว่างๆ   มองตัวเองว่าไม่ใช่เราแล้วแหละ ชีวิตต้องดำเนินไปอย่างมีสาระ    เพราะในหัวมีแต่ความคิดมากมายอยากทำอะไรหลายอย่างในเวลาเดียวกัน   เป็นคนไม่ชอบอยู่นิ่ง       พอนิ่งแล้วรู้สึกกระวนกระวายใจ เหมือนไม่อยากปล่อยให้วันเวลามันผ่านเราไปเฉยๆ
เป็นคนออกแนวอาร์ทเล็กน้อยถึงปานกลาง  ถ้าจะพูดถึงความชอบ  ก้อชอบตกแต่งบ้าน  ชอบจัดดิสเพลย์   ชอบดีไซน์  ชอบออกแบบ  ชอบถ่ายภาพธรรมชาติมาก     โดยเฉพาะ  มาโคร   สิ่งเล็กๆเช่นดอกหญ้า แมลง    เราจึงมีสโลแกน  ว่า  " แม้เป็นเพียงดอกหญ้า  แต่ก็มีคุณค่าในสายตาเรา"  (จะไปกันใหญ่แล้วกลับมา)  ต่อ......

วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ยังไม่ทันเริ่มก็จะล้มแล้ว.....หรือ

เอ้ยอยู่ดีๆก็ปวดหลังมากมาย  ปวดเป็นครั้งแรกในชีวิต ไม่รู้เพราะอะไร  หรือไอ้ที่เรานั่งเย็บผ้า  ป่าวนะ
แต่ไม่ใช่ด้วยวัยแน่ๆ (ยังไม่สูงไวขนาดนั้นอิอิ)   กำลังคิดจะทำอะไรยามว่างซักกะหน่อย   มีโครงการในหัวมากมาย      อุตส่าห์ ไป ซื้อจักรเย็บผ้า   หอบสังขารไปตะรอนๆพาหุรัด เหนื่อยมากกกก  อดหลับอดนอน    ยังไม่ทันเริ่มก็จะล้มแล้วหรือเรา      หรือจะป่วยอยู่เฉยดีกว่าไม่ต้องทำอะไรกันเลยเรา
      


วันอังคารที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เบาะรองนั่ง... วันว่างๆของคนเปื่อยๆ


วันว่างๆของคนเปื่อยๆ    อยากทำโน้นนี่นั่นมากมาย
ในที่สุดก็ได้สิ่งนี้   มันชั่งไม่เหมาะกับหน้าตาเจ้าของเลย
แต่ก็เอาเหอะ.....แอบมีมุมหวานแวว sometimes

วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เรื่องของคนอยากมีบล็อกส่วนตัว

สวัสดีชาวโลก    เฮ้ยกว่าจะตัดสินใจได้จดๆจ้องๆอยู่นานเลยยย
ไอ้เรามันไม่เก่ง IT ซะด้วยจะรอดมั้ยนะ